รีวิว 500 ไร่ วัลเลย์ รีทรีต, สโลว์ไลฟ์ชิลๆที่ชุมชนคลองศก Tips to Trip by Promotion2U [ตอนที่4]

แล้วก็มาถึงตอนสุดท้ายของรีวิวชุด เที่ยวเขื่อนรัชชประภา ทะเลสาบเชี่ยวหลาย อุทยานแห่งชาติเขาสก แพ 500 ไร่ กันแล้วนะครับ! ตามผมมา เที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสก ชุมชนคลองศก และที่พักที่แสนสงบ 500 ไร่ วัลเล่ย์ รีทรีต ไปด้วยกันเลยครับผม!!

500 ไร่ วัลเลย์ รีทรีต @ อุทยานแห่งชาติเขาสก 

เขาสก เป็นแหล่งท่องเที่ยวของไทยที่คนไทยเองอาจจะไม่คุ้นเคยกันเท่าไหร่ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับคนที่ต้องการมาพักเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ชื่นชมผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ดื่มด่ำกับบรรยากาศประเทศไทยในแบบโลคอลสุดๆ เสมือนกับได้ไปเดินที่เมืองปาย หรือ ถนนข้าวสารเมื่อ 20 กว่าปีก่อนเลย

สำหรับที่ 500 ไร่ วัลเลย์ รีทรีต นั้นเป็นรีสอร์ทขนาดเล็กที่มีห้องพักทั้งหมดเพียง 6 ห้องเท่านั้น แต่บรรยากาศโดยรอบ การตกแต่ง และ บริการต่างๆนั้นยอดเยี่ยมไม่ต่างกันกับ แพ 500 ไร่บนทะเลสาบเชี่ยวหลานเลย

อาคารที่พักทั้ง 2 หลัง สร้างอิงเนินเขา หันหน้ารับวิวทิวทัศน์มุมสูงของป่าเขาสกได้เต็มที่ 

ห้องพักที่นี่ยังสะดวกสบาย ตกแต่งได้สวยงามในแบบไทยประยุกต์  นอกจากจะใช้ไม้เป็นส่วนประกอบหลักของตัวอาคารแล้ว ยังเลือกตกแต่งด้วยเครื่องเรือนและของตกแต่งบ้านแบบวินเทจย้อนยุค 

ห้องพักชั้นที่ล่าง ภายในห้องพื้นที่กว้างขวาง แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน พื้นที่ภายในห้องเป็นห้องโถงใหญ่ สามารถปรับเป็นห้องนอนได้ถ้ามาพักกันหลายคน และ ห้องนอนเล็กแบบไพรเวท ด้านในสุด

ส่วนชั้นบนเป็นห้องพักแบบไทยสไตล์ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนเช่นกัน ส่วนห้องโถงพักผ่อนผนังกระจกใสเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกได้เต็มตา 

มีชานพักด้านนอกและชุดโซฟาที่นั่งรับลมด้านนอก

ใส่ส่วนห้องนอนนั้นแต่งผนังห้องเป็นไม้ฝาปะกน ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โบราณทั้งตู้พระธรรมที่เขียนลายรดน้ำ เก้าอี้ไม้จีนโบราณ เน้นความเป็นวินเทจกันสุดๆ

ถัดไปในโซนพื้นที่ห้องอาหารที่อยู่ชั้นบน ส่วนด้านในเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่สำหรับนั่งพักผ่อน ผนังทั้ง2 ฝั่งเป็นประตูกระจกใส เปิดรับลม เห็นวิวรอบๆได้อย่างเต็มตา มีมุมเครื่องดื่มอยู่ด้านในสุด

โต๊ะยาวขนาดใหญ่สำหรับรับประทานอาหาร อยู่ที่ระเบียงด้านนอก นั่งชิมไปชมวิวไปเพลิดเพลินดีไม่เบาเลยล่ะครับ

จุดขายของที่นี่คือทะเลหมอกยามเช้าที่เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ ความชุ่มชื่นของผืนป่า ท่ามกลางวิวพาโนรามาของอุทยานแห่งชาติเชาสก ที่สวยงาม และ เย็นสบายไม่แพ้ทะเลหมอกในภาคเหนือเลย 

ขออนุญาตแวะพักผ่อนช่วงบ่ายเอาแรงสักงีบนึง ตอนนี้มาฟังเรื่องเล่าประวัติความเป็นมาของที่ เขาสก นี่กันก่อนดีกว่าครับ

อุทยานแห่งชาติเขาสก “ขุนเขาแห่งป่าฝน”

อุทยานแห่งชาติเขาสก เป็นพื้นที่ป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครอบคลุมพื้นที่สามอำเภอคือ อำเภอพนม, บ้านตาขุนและ คีรีรัฐนิคม 

ที่นี่นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เดินเที่ยวชมอยู่หลายเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติอีกหลายแห่ง เช่น น้ำตกโตนกลอย, น้ำตกธารสวรรค์, น้ำตกสิบเอ็ดชั้น, น้ำตกบางเลียบน้ำ หรือจะเป็นกิจกรรมแอดเวนเจอร์เดินลุยป่าตามหาบัวผุด หรือกระโถนฤๅษี ที่ กม.111 การล่องเรือส่องสัตว์ดูกระทิง และ นกเงือก

บริเวณเขต ชุมชนคลองศก เป็นชุมชนที่เดิมเรียกขานว่า บ้านศพ เนื่องจากลักษณะพื้นที่ มีภูเขาที่มีลักษณะคล้ายคนนอนตายนอนอยู่เชิงเขา จึงได้นำเอาชื่อของ นางยักษ์พันธุรัต ในเวรรณคดีไทยรื่อง สังข์ทอง มาตั้งเป็นชื่อ ภูเขาพันธุรัต ส่วนหมู่บ้านนี้จึงได้ชื่อว่า บ้านศพ ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น บ้านศก และเนื่องจากสภาพพื้นที่ของชุมชนมีคลองไหลผ่าน จึงเรียกชื่อว่า “ตำบลคลองศก” มาจนถึงปัจจุบัน 

อ้างอิง: https://thai.tourismthailand.org/สถานที่ท่องเที่ยว/อุทยานแห่งชาติเขาสก–5488

เดินชิลยามค่ำ กับบรรยากาศเย็นที่ ชุมชนคลองศก

สำหรับวันนี้ช่วงหัวค่ำเรามีโอกาสได้ออกไปเดินเล่นที่ถนนท่องเที่ยวในชุมชนคลองศกกันสักหน่อย ไม่น่าเชื่อว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติล้วนๆ

ร้านรวงสองข้างทางถนนเส้นเล็กๆ ดูครึกครื้นคึกคักไปด้วยเสียงเพลงจากบาร์และร้านอาหารต่างๆ

อากาศเย็นสบายๆกับเสียงเพลงและบรรยากาศรอบๆตัวแบบนี้ ชวนให้คิดถึงเมืองปายเมื่อสมัย 15 กว่าปีที่แล้ว ที่ยังไม่โดนรุกที่เปลี่ยนสภาพไปจนไม่เหลือเค้าเดิมของเมืองแห่งสายหมอกอย่างในปัจจุบัน ใครที่คิดถึงบรรยากาศชิลๆแบบ ปาย ในสมัยก่อน แนะนำให้ลองแวะมาเที่ยวที่ คลองศก นี่ดูสักทริปครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน!

ปิดจบทริปวันที่ 3 กันที่ 500 ไร่ วัลเลย์ รีทรีต คืนนี้กันแต่หัวค่ำ เตรียมรอชมทะเลหมอกยามเช้ากันก่อนจะเตรียมตัวแพ็กกระเป๋าเดินทางกลับบ้านกันครับ

ชมทะเลหมอกยามเช้า ที่ 500 ไร่ วัลเลย์ รีทรีต

จากที่ตั้งใจไว้ว่าจะตื่นมาเก็บภาพดวงอาทิตย์ดวงเดิม แต่เป็นมุมมองที่เขาสกกันแต่เช้ามืด แต่ก็ต้องพักโปรเจคเก็บขาตั้งกล้องกันไว้เหมือนเดิม จากเมื่อวานที่อากาศแค่เย็นๆ เช้าวันนี้ทั้งหุบเขาเต็มไปด้วยหมอกลงหนักมากถึงขนาดที่มองไปข้างหน้าได้แค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นเอง ได้โอกาสดีๆแบบนี้เลยต้องขอซุกตัวลงในผ้าห่มอุ่นๆนอนพักกันต่ออีกสักหน่อย…

ผ่านไปจน 7 โมงเช้า หมอกก็ยังไม่จาง แต่ฟ้าเริ่มสว่างมองเห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม งานนี้ผมปลุกลากน้องนางแบบออกไปเดินเล่นถ่ายรูปยามเช้ากันที่ริมสระว่ายน้ำ เผื่อจะได้มุมแสงเช้าสวยๆกลับบ้าน

แต่ออกไปก็เจอแต่หมอกเต็มไปหมด อากาศเย็นสดชื่นเป็นที่สุดจริงๆครับ ไม่คิดเหมือนกันว่าที่นี่ทะเลหมอกจะลงหนาหนักกันขนาดนี้ ถึงจะไม่ได้รูปที่ตั้งใจไว้ แต่ก็ได้มุมสวยๆของสายหมอกยามเช้ามาหลายภาพเหมือนกัน 

บรรยากาศยามเช้ากลางป่าทะเลหมอกแบบนี้ มันช่างสดชื่น…..จนอยากให้คนอ่านได้ตามมานั่งสัมผัสอากากศดีๆแบบนี้ด้วยจริงๆ

ผ่านไปตั้งแต่เช้าจนเกือบ 11 โมง กว่าที่ดวงอาทิตย์เจ้าเดิมจะสาดแสงทะลุสายหมอกที่นี่ลงมาได้ เสียดายอย่างเดียวคือเจ้าโดรนน้อย DJI Spark ที่พกติดตัวไปเก็บภาพนั้น ไม่สามารถบินได้อากาศที่เต็มไปด้วยหมอก เลยไม่ได้ขึ้นบินเก็บภาพมุมสูงของทะเลหมอกมาฝากกัน

ปิดครบจบทริปสำหรับ  500 ไร่ วัลเลย์ รีทรีต กันด้วยมื้อเช้าก่อนออกเดินทางกลับบ้านกันช่วงบ่ายวันนี้ด้วยเครื่องบินของ Thai Smile กัน 

จุดชมวิวเมืองสุราษฎร์ฯ พระธาตุศรีสุราษฎร์

แต่ก่อนที่จะไปถึงสนามบิน เราแวะไปขึ้นเขาแวะชม พระธาตุศรีสุราษฎร์ ที่ตั้งอยู่บน ป่าเขาท่าเพชร ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี 

นอกจากที่นี่จะมีองค์พระธาตุให้สักการะแล้ว ยังเป็นุจุดชมวิวธรรมชาติและทิวทัศน์เมืองสุราษฎร์ธานี ที่มองเห็นทิวทัศน์ของตัวเมืองได้อย่างชัดเจนอีกด้วยครับ

ประวัติของ พระธาตุศรีสุราษฎร์

พระธาตุศรีสุราษฎร์  ในพระบรมราชูปถัมภ์ นับเป็นปูชนียสถานองค์แรกของชาวเมืองบ้านดอน หรือชาวอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ริเริ่มดำเนินการสร้างโดยภาคประชาชนชาวบ้านดอน ต่อมาจึงได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนจนสำเร็จในปี พ.ศ.2500 เป็นพระธาตุทรงสูงเรียวคล้ายลำเทียน ส่วนยอดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 2 องค์ และพระธาตุของพระพุทธสาวกอีก 16 องค์  

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาสักการะพระธาตุ และทรงปลูกต้นพะยอม ไว้ที่หน้าองค์พระธาตุ เมื่อ วันที่ 27 มีนาคม 2502 และทรงรับพระธาตุศรีสุราษฎร์ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระธาตุศรีสุราษฎร์จึงได้ชื่อว่า พระธาตุศรีสุราษฎร์ในพระบรมราชูปถัมภ์

อ้างอิง: https://sites.google.com/site/tisudsaensyam/phra-thatu-sri-surasdr

ร้านลำพู 1 ร้านอาหารเจ้าเก่าประจำเมือง

ก่อนจะไปรอขึ้นเครื่องกันที่สนามบินสุราษฎร์ธานี เรามีโอกาสแวะชิมอาหารที่ร้านดังประจำเมืองกันก่อนจะกลับบ้านอีกมื้อนึง จากเขาท่าเพชรใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก็มาถึง ร้านลำพู 1 ร้านอาหารเจ้าเก่าเปิดขายมากว่า 40 ปี ที่นี่เป็นร้านสาขาแรกที่คนพื้นที่รู้จักกันดี เมนูเด็ดของที่นี่ต้องลองสั่งกุ้งแม่น้ำเผาบิ๊กไซส์ตัวโตเนื้อแน่น ปูทะเลนึ่งตัวใหญ่ก้ามโตๆ ทานคู่น้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซบ หรือใครอยากทานหอยนางรมสดๆก็มีด้วยนะ

มื้อสุดท้ายของทริปนี้ พวกเราจัดหนักกันจุใจก่อนจะอำลาเมืองสุราษฎร์ฯ ไปขึ้นเครื่องบินกลับบ้านด้วยความอิ่มเอมทั้งกายและใจ ไม่ว่าจะอิ่มท้องกับมื้ออาหารอร่อย อิ่มใจกับธรรมชาติที่แสนสมบูรณ์  รวมถึงความประทับใจกับบริการดีๆจาก แพ 500 ไร่ ทั้งที่ เขื่อนรัชชประภา และ 500 ไร่ เขาสก เป็นอีกทริปนึงที่เราตั้งใจว่าต้องกลับมาซ้ำให้ได้อีกรอบแน่นอน  

ติดตามอ่านรีวิวชุด เที่ยวแพ 500 ไร่ เขื่อนรัชชประภา ทะเลสาบเชี่ยวหลาน อุทยานแห่งชาติเขาสก กับ Tips to Trip by Promotion2U ทั้ง 4 ตอนได้ที่นี่

รีวิว แพ 500 ไร่ ทะเลสาบเชี่ยวหลาน เขื่อนรัชชประภา เขาสก [ตอนที่ 1] Tips to Trip by Promotion2U

รีวิว เดินป่าเขาสก ลุยถ้ำน้ำทะลุ ล่องแพคลองพะแสง สะพานแขวนเขารูปหัวใจ แบมบู จังเกิล รีสอร์ท โฮมสเตย์หลักร้อยอาหารอร่อยหลักพัน [ตอนที่ 2] Tips to Trip by Promotion2U

รีวิวเขื่อนรัชชประภา สระน้ำผุดสุดใสที่ป่าต้นน้ำ อร่อยกับข้าวหลามปลายอกที่คลองแสง Tips to Trip by Promotion2U [ตอนที่ 3]

http://www.promotiontoyou.com/?p=112988

ขอขอบคุณทุกเรื่องใหม่ของ รวมโปรโมชั่น ครั้งนี้ที่มาจาก http://www.promotiontoyou.com/